วันที่ 28 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2556
1. อาจารย์บรรยายเนื้อหา “เด็กที่มีความต้องการพิเศษ” ต่อจากสัปดาห์ที่ 3 สรุปได้ดังนี้
1. อาจารย์บรรยายเนื้อหา “เด็กที่มีความต้องการพิเศษ” ต่อจากสัปดาห์ที่ 3 สรุปได้ดังนี้
Mind Mapping : เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ (Children with Behaviorally and Emotional Disorders)
หมายถึง ผู้ที่มีการควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในสภาพปกติเช่นคนปกตินาน ๆ ไม่ได้หรือผู้ที่ควบคุมพฤติกรรมบางอย่างของตนเองไม่ได้
ซึ่งพฤติกรรมที่แสดงออกมานั้นไม่เป็นที่ยอมรับและพอใจของมาตรฐานความประพฤติปฏิบัติของสังคม
เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้หรือเรียกย่อๆ
ว่า L.D. (Learning Disability) หมายถึง ผู้ที่มีปัญหาทางการเรียนรู้เฉพาะอย่าง โดยมีความบกพร่องหรือปัญหาหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งอย่าง ในกระบวนการทางจิตวิทยาทำให้เด็กเหล่านี้มีปัญหาทางการใช้ภาษาหรือการพูด การเขียน โดยจะแสดงออกมาในลักษณะของการนำไปปฏิบัติ
Mind Mapping : เด็กออทิสติก
เด็กออทิสติก (Autistic) บางครั้งเรียกว่า ออทิซึ่ม (Autism) หมายถึง เด็กที่มีความบกพร่องอย่างรุนแรงในการสื่อความหมาย พฤติกรรม สังคม
และความสามารถทางสติปัญญาในการรับรู้ อาการต่าง ๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอนเป็นระยะ ๆ ไป เด็กออทิสติกแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ของตนเอง และย่อมแตกต่างไปจากเด็กคนอื่น ๆ ซึ่งเป็นเด็กออทิสติกเหมือนกัน ทั้งนี้เป็นเพราะอาการที่เป็นมีความรุนแรงมากน้อยต่างกันไป ประกอบกับเด็กแต่ละคนมีบุคลิกภาพของตัวเองอยู่ด้วย อาการออทิสติกนั้นจะคงอยู่ติดตัวเด็กไปจนเป็นผู้ใหญ่จนตลอดทั้งชีวิต ไม่สามารถรักษาให้หายได้
Mind Mapping : ลักษณะเด็กออทิสติก
เด็กพิการซ้อน (Children with Multiple Handicaps) หมายถึง ผู้ที่มีความบกพร่องที่มากกว่าหนึ่งอย่าง เป็นเหตุให้เกิดปัญหาขัดข้องในการเรียนรู้อย่างมาก
เช่น ปัญญาอ่อน–ตาบอด ปัญญาอ่อน-ร่างกายพิการ
หูหนวก-ตาบอด ฯลฯ
Mind Mapping : ลักษณะเด็กพิการซ้อน
2. อาจารย์ให้นักศึกษาดูวิดีโอห้องเรียนแรกของเด็กพิเศษ
แล้วสรุปใจความสำคัญของเนื้อหาเป็น Mind Mapping งานชิ้นนี้
10 คะแนน
การประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม
1. การดูแลเด็กพิเศษ
เมื่อรับเด็กมาแล้ว ครูต้องมีการประเมินว่าเด็กมีพื้นฐานและพัฒนาการเป็นอย่างไร
2. จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะพื้นฐาน 6 ประการ ให้เด็กพิเศษตามลำดับขั้น คือ พัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก ภาษา สังคม การช่วยเหลือตนเอง เตรียมวิชาการ
3. ครูทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลเพื่อวางแผนการเรียนรู้
4. การจัดกิจกรรมต้องมีการประเมินผล โดยการสังเกตของครู
2. จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะพื้นฐาน 6 ประการ ให้เด็กพิเศษตามลำดับขั้น คือ พัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก ภาษา สังคม การช่วยเหลือตนเอง เตรียมวิชาการ
3. ครูทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลเพื่อวางแผนการเรียนรู้
4. การจัดกิจกรรมต้องมีการประเมินผล โดยการสังเกตของครู
ข้อพึงระวังในการนำไปใช้
1. การจัดกิจกรรมต้องมีความยืดหยุ่นระหว่างครูกับผู้ปกครอง
2. ผู้ปกครองมีสิทธิ์ที่จะเลือกไม่ให้นักเรียนทำกิจกรรมที่ผู้ปกครองเห็นว่าไม่เหมาะสม
3. ในการทำกิจกรรมของเด็กพิเศษ ถ้าผู้ใหญ่คิดให้เด็กจะหมดโอกาสคิด
2. ผู้ปกครองมีสิทธิ์ที่จะเลือกไม่ให้นักเรียนทำกิจกรรมที่ผู้ปกครองเห็นว่าไม่เหมาะสม
3. ในการทำกิจกรรมของเด็กพิเศษ ถ้าผู้ใหญ่คิดให้เด็กจะหมดโอกาสคิด
สะท้อนสิ่งที่ได้รับจากการเรียน
สังคมไม่ควรมองว่าเด็กที่มีความต้องการพิเศษเป็นปัญหาสำหรับสังคม เพราะเด็กเหล่านนี้ไม่ได้ไปทำร้ายคนอื่นหรือสร้างความวุ่นวายให้แก่สังคม เพียงแต่เด็กเหล่านี้ต้องความความช่วยเหลือจากสังคม ถ้าทุกฝ่ายให้ความดูแลเอาใจใส่เหมือนเด็กปกติทั่วไป ดิฉันเชื่อว่าเด็กเหล่านี้จะมีพัฒนาการที่ก้าวหน้าเทียบเท่ากับเด็กปกติก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญในการพัฒนาเด็กเหล่านี้คือ ครอบครัว ที่มีความอบอุ่นและต้องดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น